รถไฟฟ้าได้ฤกษ์สร้างต่อ ผู้รับเหมาชี้ไม่หวั่นขึ้นค่าแรง-พร้อมลุยหากรัฐไฟเขียว!

ดีเดย์ไปแล้วสำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว(ส่วนต่อขยายสถานีแบ ริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งงานนี้บริษัท ช.การช่าง จะเริ่มลงพื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2555 นี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2560 ทั้งนี้คาดว่าจากความชัดเจนของการเริ่มต้นโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อชานเมือง จะยิ่งทำให้ความคึกคักของโครงการอสังหาฯย่านบางนา-ตราดได้รับความสนใจจากนัก พัฒนาโครงการมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยเท่านั้นที่จะได้รับความนิยม เพราะฝั่งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆก็พลอยได้รับอานิสงค์ไปด้วย เนื่องจากทำเลย่านสมุทรปราการเป็นหนึ่งในไม่กี่พื้นที่โซนสีแดงที่รอดพ้น วิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งฝั่งนิคมอุตสาหกรรมบางปูและนิคมฯลาดกระบัง

 

หลังจากเงียบหายไปนานสำหรับข่าวความคืบหน้าของโครงการเมกะโปรเจ็คอย่าง โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งในปีที่ผ่านมาโดนทั้งพิษน้ำท่วมและการเมือง ทำให้การดำเนินงานไม่ราบรื่นวิ่งฉิวสักเท่าไหร่ แต่หลังจากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณได้ลงตัว โครงการเมกะโปรเจ็คจึงได้ฤกษ์เดินหน้า โดยกลุ่มที่สตาร์ทก่อนใครเพื่อนคือ บมจ. “ช.การช่าง” ที่กวาดงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ามาหลายขบวนทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ,สีน้ำเงิน ,สีเขียว รวมถึงได้สัมปทานเดินรถสายสีม่วง และทางด่วนใหม่ (ศรีรัช-วงแหวนฯ) กวาดเงินเข้ากระเป๋าไปกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท

ด้าน บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น ที่ปีที่แล้วกวาดส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าได้ไม่แพ้กัน โดยชิงสัญญามาได้ทั้งหมด 3 คือ สายสีม่วง ,สีน้ำเงิน และสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) แถมท้ายด้วยงานปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ 6 ทำให้ยอดงานในมือปีนี้สูงถึง 6.6 หมื่นล้านบาท

โดยฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า แม้งานก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสีน้ำเงินชะลอตัวจากเหตุน้ำท่วมเมื่อ ปลายปี 2554 แต่ซิโน-ไทยฯ มีงานในมือ(Backlog) ที่แข็งแกร่งมาก อีกทั้งมีแนวโน้มได้งานใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ ทำให้แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ยังคงสดใสไปจนถึงปี 2557

“เราปัจจุบันซิโน-ไทยฯจะมี Backlog ในมือประมาณ 49,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับงานประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดงสัญญาที่ 1 อีก 20,600 ล้านบาท ทำให้ยอดสะสมงานในมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้เราคาดว่าซิโน-ไทยฯ มีแนวโน้มได้งานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานของ STPI ซึ่งเป็นงานทำโมดูลให้กับโรงแยกก๊าซในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะช่วยต่อยอดประมาณการรายได้ของปี 2556 ให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง” เติมพร ตันติวิวัฒน์ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ กิมเอ็งฯ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากแผนโครงการเมกะโปรเจ็คของรัฐบาล ส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้มีแนวโน้มสดใสต่างจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการจัดสรรงบประมาณทั้งโครงการฟื้นฟูน้ำท่วมและโครงการเมกะโป รเจ็กต์ ที่จะมีการประมูลงานเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 สาย คือ สายสีเขียวและสีชมพู และอาจจะมีโครงการบิ๊กโปรเจ็คอย่างโครงการรถไฟรางคู่ หรือโครงการรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย โดยล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทยได้งบประมาณมาปรับปรุงทางรถไฟช่วงสถานี พิษณุโลก-เชียงใหม่ มูลค่ากว่า 2,853 ล้าน ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน ซึ่งผู้รับเหมาที่ประมูลได้งานไปคือ บมจ.อิตาเลียน-ไทย

“ปีนี้อิตาเลียน-ไทยฯจะหันมารับงานในประเทศมากขึ้น หลัง 2-3 ปีที่ผ่านมาออกรับงานต่างประเทศเป็นส่วนมาก ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีงานใหม่อีก 3 แสนล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือ 1.7 แสนล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้ได้งานโครงการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน สัญญาที่ 12.6 หมื่นล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟช่วงสถานีพิษณุโลก-เชียงใหม่อีก 2.8 พันล้านบาท” นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล ลอปเมนต์ กล่าว

ส่วน ความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ล่าสุดทางผู้รับเหมาทั้ง 3 สัญญาได้ปรับแผนงานก่อสร้างให้เร็วขึ้น จากเดิมติดปัญหาวิกฤตน้ำท่วม ทำให้งานก่อสร้างล่าช้าไปจากแผนอยู่กว่า 10% แต่ปัจจุบันได้มีการเริ่มงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 40-50%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มจะติดปีกกับเขาบ้างแล้ว แต่ก็อย่าลืมระวังปัจจัยลบจากต้นทุนทั้งด้านขนส่งและราคาวัสดุก่อสร้าง ที่ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากมีการปรับขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ก็อาจจะส่งผลกระทบในระยะสั้นๆได้ ยกเว้นว่าจะมีการเจรจาตกลงซื้อขาดกันไว้ตั้งแต่ก่อนสินค้าจะทันได้ปรับตัว

แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้รับเหมาต้องระวังมากกว่าต้นทุนด้านราคาสินค้า ก็คือ ปัจจัยเรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากปีนี้มีงานก่อสร้างเยอะชนิดคิวงานยาวข้ามปี ทั้งโครงการเมกะโปรเจ็ค โครงการอสังหาริมทรัพย์ และโครงการฟื้นฟู-ป้องกันน้ำท่วม เห็นงานชุกอย่างนี้แล้วไม่แน่ว่ากลุ่มอาชีพที่จะได้ค่าแรงเกิน 300 บาทก่อนใครเพื่อนอาจจะเป็นกลุ่มแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างก็เป็นได้..

Leave a comment